วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ธรรมกับการดำเนินชีวิต

พรหมวิหารธรรม 4
พรหมวิหาร 4 ความหมายของพรหมวิหาร 4
พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่ เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข กรุณา ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี อุเบกขา การรู้จักวางเฉย
คำอธิบายพรหมวิหาร 4
1. เมตตา : ความปราถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้ และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น
2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ - ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และ ความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์ - ทุกข์จรหรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุกข์
3. มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิดความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกงของเพื่อนนักเรียนคนนั้นให้สกปรกเลอะเทอะ เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง
4. อุเบกขา :การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
ที่มา www.watkoh.com

10 ความคิดเห็น:

  1. เป็นเรื่องที่ดีครับ ว่าแต่แล้วเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ในโรงเรียนล่ะ?

    ตอบลบ
  2. ธรรมะเป็นเรื่องที่ดี ที่เราควรปฏิบัติกันทุกวันเพื่อให้ชีวิตของเรามีความสงบสุข

    ตอบลบ
  3. โฮ ธรรมะตลอดเลย
    ที่โรงเรียนก็พูดทุกวัน
    ไม่เบื่อเหรอคะ
    ลองมาอ่าน บทความรินทร์ดีกว่า
    นะคะ

    ตอบลบ
  4. มีธรรมมะก็ขอให้มีทั้งกายและใจนะ อย่ามือถือสากปากถือศีลล่ะ

    ตอบลบ
  5. ก็อาจารย์ให้upทุกวันไม่ใช่หรอพี่ เรื่องเกี่ยวกะคอมน่ะ...แฮะๆๆๆ
    ไม่รู้จะเอาอะไรมา upแล้วนะเนี่ย

    ตอบลบ
  6. ธรรมะก็ควบคู่กันไปกับการเรียนเรียนคอมพิวเตอร์ จิตใจจะได้สงบ
    นะโยม

    ตอบลบ
  7. ดีอีกรอบคะ

    ตอบลบ
  8. หายป่วยหรือยัง เช่าชุดได้อย่างใจไหม อย่าเคียวมากล่ะ เดี๋ยวไข้กลับ

    ตอบลบ
  9. ได้ความรู้มากมายค่าพี่แอร์ จะได้ธรรมมะธรรมโมกะเค้าบ้าง ^^

    ตอบลบ
  10. บทความเปลี่ยนไดแล้วคะ

    ตอบลบ